"Siam, Land of the White Elephant" - Video of American Presbyterian Mission & Thai churches, schools in 1932
ความเหมือน และความแตกต่างระหว่าง นิกายโปรเตสแตนท์และนิกายโรมันคาธอลิก
หลายคนรู้ว่านิกายโรมันคาธอลิกและนิกายโปรเตสแตนท์เป็นของศาสนาคริสต์ แต่ยังไม่รู้ว่าทั้งสองนิกายนี้แต่กต่างกันอย่างไร ทั้งสองกลุ่มมีความเชื่อตาม หลักข้อเชื่อของอัครทูต และ หลักข้อเชื่อไนซีน แต่ยังมีหลายข้อที่ไม่เหมือนกัน
ข้างล่างนี่ท่านจะพบการสรุปสั้นๆ เรื่องความแตกต่างระหว่างนิกายโรมันคาธอลิกและนิกายโปรเตสแตนท์
|
หลักความเชื่อ |
คาธอลิก |
โปรเตสแตนท์ |
1 |
สิทธิสูงสุดในการปกครองของคริสตจักร |
สังฆธิปไตย (การปกครองตามลำดับลงมา) - สันตะปาปาเป็นประมุข |
1) สังฆธิปไตย (แบบแองกลิคัน) |
2 |
สิทธิอำนาจสูงสุดในการกำหนดหลักความเชื่อ |
ประเพณีและคำสอนของศาสนจักร |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ |
3 |
ความรอด |
โดยพระคุณด้วยมีการกระทำเป็นตัวช่วย |
โดยพระคุณพระเจ้าเท่านั้น |
4 |
คนกลางระหว่างเรากับพระเจ้า |
พระเยซูคริสต พระแม่มารี เหล่านักบุญ และบาทหลวงประจำโบสถ์ |
พระเยซูคริสต์เท่านั้น |
5 |
หลังความตาย |
คนเชื่อพระคริสต์ไปแดนชำระรับโทษบาป แล้วขึ้นสวรรค์เมื่อถูกชำระแล้ว |
คนเชื่อพระคริสตขึ้นสวรรค์ |
6 |
พิธีมหาสนิด |
ขนมปังและน้ำองุ่นเปลี่ยนแปลงเป็นพระกายและพระโลหิตแท้ของพระเยซูคริสต์ พีธีเป็นการถวายบูชา |
ขนมปังและน้ำองุ่นเป็นสัญญาลักษณ์ช่วยผู้เชื่อให้ระลึกถึงพระเยซูคริสต์ |
7 |
ผู้นำคริสตจักร |
บาทหลวง ห้ามแต่งงาน |
ศิยาภิบาล ผู้ปกครอง และ/หรือทีมผู้นำ |
8 |
รูปปั้น ภาพศิลปะ |
รูปปั้น และภาพศิลปะเป็นตัวช่วยผู้เชื่อนมัสการพระเจ้า |
รูปปั้นมีน้อย ไม่มีบทบาทในการนมัสการ |
Image by Free-Photos from Pixabay
ท่านใดที่สนใจรู้เพิ่มเติมสามารถ
- สอบถามผู้น้ำโปรแตสแตนต์ (ศิษยาภิบาล) หรือคาธอลิก (บาทหลวง)
- อ่านหนังสือ เสาหลักห้าประการของโปรเตสแตนต์คืออะไร?
- ดู ไททไลน์ หรือ วีดีโอ สรุปประวัิตศาสตร์ศาสนาคริสต์
My Ph.D Thesis... in One Image
Click here to view the full-size image
English Teaching vs. Evangelism - A Lesson from 19th Century Bangkok
On August 4, 1851 a unique opportunity opened up for Mrs. Sarah Bradley and a couple of other missionary women in Bangkok. It was a chance that any missionary would have jumped at, but also one that needed to be managed well… which it wasn’t, as will be seen.
Despite the general neglect of women’s education in mid-nineteenth century Thailand, King Mongkut (Rama IV) invited Mrs. Mary Mattoon, Mrs. Sarah Bradley, and Mrs. Sarah Jones to teach English to his wives and other women in the royal palace. The king was a forward-looking and modern-minded monarch who was eager to gain Western knowledge from missionaries and other Westerners. Previously, missionary Jesse Caswell had been a private tutor to the king and as a result King Mongkut became quite adept in English and was eager for others in the royal household to learn English as well.