ทำไม ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง จึงเป็นแชร์ลูกโซ่ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ผมมีคำสารภาพ
เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนโดยศิษยาภิบาลคริสตจักรใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้เขียนสอนให้ผมใช้ชีวิตเหมือนเด็กในพระคริสต์ เขาบอกผมว่าพระเจ้าต้องการที่จะอวยพรผม นอกจากนี้ เขายังบอกผมว่า ถ้าเพียงว่าผมเชื่อเท่านั้น พระเจ้าจะให้บ้านที่สวยงามที่สุดกับผมในละแวกบ้านที่ผมอยู่ ฟังดูก็น่าจะเป็นไปได้
ผู้เขียนอธิบายว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยต้องการบ้านที่ดีที่สุดในละแวกบ้านใกล้เคียงของเขา และพระเจ้าได้ให้กับเขา นี่เป็นคนที่พูดโดยมีหลักฐานประกอบด้วย ไม่เพียงเขามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับบ้านเท่านั้น เขาได้เล่าอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ฟังอีก และยังมีชุดฟันเงางามเต็มปากอีกหนึ่งชุดด้วย (โอ้ ช่างขาวอร่ามงามตาอะไรเช่นนั้น ผมคิดในใจ)
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เรียนรู้ในสิ่งเรียกกันว่า "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" หรือ "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรืองในสุขภาพและความร่ำรวย" เป็นครั้งแรก ในเวลานั้น ผมฟังดูแล้วก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลดี: "ถ้ามันเกิดขึ้นกับเขาได้ แล้วทำไมมันจึงจะเกิดขึ้นกับตัวผมเองไม่ได้เล่า"
ถ้าเพียงแต่ผมได้ขุดลงไปดูลึกอีกหน่อย ผมก็คงจะได้เห็นเหตุผลที่แท้จริงว่า ทำไมมันจึงเกิดขึ้นกับเขาได้และเกิดกับตัวผมเองไม่ได้ เพราะว่า "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" นั้น แท้จริงมันเป็นแชร์ลูกโซ่
แล้วแชร์ลูกโซ่มันเป็นอะไรหรือ
แชร์ลูกโซ่ทำงานแบบนี้
ขั้นตอนที่หนึ่ง: มีห้างที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งหนึ่งต้องการจะทำเงินจำนวนมาก ได้กล่าวกับหญิงชราสองคนว่า ถ้าพวกเธอขายสินค้า "อัศจรรย์ A-3000" ของพวกเขาได้ ก็จะมีเงินมากพอที่จะใช้ทำอะไรที่พวกเธอชอบ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการเริ่มกิจการเป็นจำนวนเงิน $ 401.76 และก็แน่นอน สินค้า "อัศจรรย์ A-3000" เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นอะไร เพราะมันก็ไม่ใช่เป็นเรื่องการสินค้าอะไรแต่ประการใด มันเป็นเรื่องของการสรรหาพนักงานขายมากขึ้นเท่านั้น
ขั้นตอนที่สอง: หญิงชราตัวน้อย ๆ ทั้งสองได้รับสมัครหญิงตัวน้อย ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยใช้เรื่องราวเดียวกันในการพูดจาหว่านล้อม
ขั้นตอนที่สาม: ในบางช่วงบางตอน ผู้คนเริ่มตระหนักได้ว่า แท้จริงไม่มีใครต้องการจะซื้อตัวสินค้า "อัศจรรย์ A-3000" และก็ไม่มีใครที่กำลังขายตัวสินค้า "อัศจรรย์ A-3000" จริง ๆ แต่ประการใด เงินที่ขายได้ทั่งหมดถูกนำส่งตรงขึ้นไปด้านบน ในเวลาเดียวกัน เถ้าแก่ห้างก็กำลังทำงานอยู่ในร้านของเขา ตลกปกฮาไปวัน ๆ และว่ายน้ำอยู่ในบ่อเงินบ่อทองที่หลอกลวงได้มา
นี่ก็คือแชร์ลูกโซ่
สามประการที่ "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรืองในสุขภาพและความร่ำรวย" มีความเหมือนกันกับ แชร์ลูกโซ่
แล้วที่พูดมาทั้งหมดนี้ มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับหนังสือของศิษยาภิบาล "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" หรือ ทุกอย่างเลยครับ เพราะว่า "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" มีอะไรที่เหมือนกันมาก ๆ กับแชร์ลูกโซ่ ในอย่างน้อยสามประการด้วยกัน
1. มันตั้งอยู่บนความสำเร็จของการหลอกลวงจากคนที่อยู่ด้านบน
ผมถูกศิษยาภิบาล "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" หลอกเหมือนกันกับคนที่ถูกหลอกในเกมแชร์ลูกโซ่ พวกเขาเห็นเถ้าแก่ที่ประสบความสำเร็จในร้าน แล้วก็เหมาเอาเองว่า: มันเป็นจริงกับเขานี่ เห็นหรือเปล่าล่ะ
ใช่ มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ และนั่นก็เป็นเพราะว่ามีคนจ่ายเงินให้กับบ้านของท่านศิษยาภิบาล ผมไง เมื่อผมซื้อหนังสือ และคนอื่นที่เหมือนผมอีกหลายล้านคน ผมสมาชิกนำเงิน-เมล็ดพันธ์แห่งความเชื่อมากองให้ที่โบสถ์ทุกวันอาทิตย์ คนที่ให้เงินเพื่อท่านศิษยาภิบาล "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" จะประสบกับความสำเร็จ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คนที่อยู่ด้านล่างของแชร์ลูกโซ่ แน่นอน มันจึงเป็นจริงกับเขาได้ เพราะว่าเขาเป็นคนที่อยู่ด้านบน
2. มันเป็นเรื่องโกหกที่บอกเล่าให้กับคนที่หมดหวังฟังกัน
เช่นเดียวกับแชร์ลูกโซ่ "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรืองในสุขภาพและความร่ำรวย" จะเทศนาให้คนจนและคนหมดหวังฟัง เพื่อนผม Vallerian Mganga ที่ประเทศเคนยา บอกกับผมว่า "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรืองในสุขภาพและความร่ำรวย" เป็นเรื่องราวคริสเตียนเพียงเรื่องเดียวที่คนส่วนใหญ่จะเคยได้ยินกัน พ่อตาผมที่ให้คำปรึกษานักโทษในเรือนจำ บอกกับผมว่า เขาพบคำสอนเหล่านี้เป็นประจำในเรือนจำ ทำไมหรือ เพราะ "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรืองในสุขภาพและความร่ำรวย" จะล่าเหยือกับคนที่หมดหวังและต้องการจะได้รับการบรรเทา
นักศาสนศาสตร์ด้านพันธกิจโลก Paul Borthwick ได้เล่าเรื่องการเดินทางไปประเทศกานา ของเขาว่า เขาได้เห็นกับตาที่มีนักเทศน์น้ำหนัก 136 กก. คนหนึ่งใช้ร่างกายของเขาเองเป็นพยานพิสูจน์ความจริงว่า พระเจ้าได้ทรงอวยพรให้เขามากมายเพียงไร และจะอวยพรผู้ที่หว่านเมล็ดแห่งความเชื่อในการถวายทรัพย์ด้วย "เมื่อคุณมีความอยู่อย่างยากจน" มิชชันนารีที่ไปกับ Borthwick กล่าวว่า "คุณไม่ต้องการให้ใครมารักคุณ คุณต้องการฤทธิ์เดชของพระเจ้าที่จะอวยพรให้คุณมีความเจริญรุ่งเรือง . . . [เขา] เหล่านั้นถูกสอนว่า [การถวายทรัพย์] เป็นวิธีที่จะปลดปล่อยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า"
"ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศาสนศาสตร์ที่ไม่ดีเท่านั้น มันยังเป็นรูปแบบคำสอนของการกดขี่ข่มเหงและเอารัดเอาเปรียบกัน
3. ตอบสนองความโลภของเรา
เช่นเดียวกับแชร์ลูกโซ่ "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" ไม่จำเป็นต้องทำงานกับคนที่หมดหวังในทางการเงินเท่านั้น มันยังดึงดูดคนที่มีความโลภด้วย เราไม่ได้ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ เพราะว่าเราโง่ เราตกเป็นเหยื่อเพราะเราต้องการที่จะตกเป็นเหยื่อ ว่ากันอย่างงั้นเถิด เราต้องการเงิน สุขภาพ และชื่อเสียง ที่พวกเขาเสนอให้ – และเราต้องการพวกมันอย่างรวดเร็วด้วย เราต้องการเชื่อว่า ทั้งหมดจะสามารถเกิดขึ้นได้ในชั่วพริบตาเดียวผ่าน "ความเชื่อ" ในสมองของเรา เราต้องการทุกสิ่งในทันที
ผมจะไม่มีวันลืมวันที่ผมท้าทายเพื่อนผมเรื่อง ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง ด้วยชีวิตของอัครทูตเปาโล เธอตอบว่า "ก็อาจารย์ไม่ได้มีความเชื่อที่เพียงพอ" นั่นคือสิ่งแชร์ลูกโซ่ทำกัน: พวกเขาบังคับให้เราต้องสยบต่อความโลภของเรา พวกเขาสามารถทำให้เราตาบอดกับทุก ๆ สิ่ง – ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ง่าย ๆ ก็ตาม – ซึ่งก็บอกชัดเจนว่า เรากำลังถูกหลอก
พระสัญญาที่แท้จริงขององค์พระเยซู
อย่าได้เข้าใจผมผิด: ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า พระเจ้าต้องการจะอวยพรผม ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงโปรดปรานผม ผมเชื่อว่าพระองค์ต้องการให้ผมมีชีวิตที่ดีที่สุด แต่ผมก็เชื่อว่าข่าวประเสริฐของพระเยซูดียิ่งกว่าข่าวประเสริฐแห่งความเจริญ รุ่งเรือง เพราะข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น พระเยซูลงมาเพื่อยกชูเราขึ้น แต่ าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรืองทำการบีบบังคับคน พระเยซูอยู่ด้วยกับคนยากจน ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง ทำให้เราเกิดความโลภ พระเยซูทรงทำลายความโลภเราลงด้วยพระสิริของพระองค์
ข่าวที่ดีอย่างแท้จริงคือ: พระพรของพระเยซูที่จัดเตรียมไว้ให้พวกเรานั้น มีมากยิ่งกว่าแค่การแสวงหาสุขภาพที่ดี ความร่ำรวย และความ สำเร็จส่วนตัวเท่านั้น พระองค์ประทานความสุขฝ่ายวิญญาณให้เรา (มธ. 5: 3) พระองค์ไม่ได้ให้แค่สิ่งดี ๆ แต่พระองค์ทรงปลอบประโลมผู้ที่โศกเศร้า (มธ. 5: 4) พระองค์ไม่ได้ให้บ้านที่ดีที่สุดในละแวกบ้านเรา แต่พระองค์ให้ความหวังในการฟื้นคืนพระชนม์ เมื่อเรายอมจำนนต่อพระองค์ (มธ. 5: 5) และพระองค์ไม่ได้ให้ "ความโปรดปรานเหนือธรรมชาติ" ที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ แต่ให้ความโปรดปรานนิรันดร์ของพระเจ้าขณะที่เราทำบาปผิดต่อพระองค์ (มธ. 5: 10-12)
พูดสั้น ๆ ก็คือ: พระเยซูเป็นพระเจ้าที่ดีกว่าพระเจ้า แน่นอนกว่า พระองค์ไม่ได้เป็นพนักงานขายแชร์ลูกโซ่ที่ยืนอยู่บนกองคำพูดหลอกลวงของความ ร่ำรวยและสุขภาพที่ดีบนโลกใบนี้ พระองค์เป็นพระเจ้าที่ลงมาจากที่สูงสุด วางตัวเองลงบนดินและเหยียดแขนออกบนกางเขน โดยได้มองข้ามที่สุขภาพที่ดี ความร่ำรวยและความอุดมสมบูรณ์ทั้งปวงบนโลกนี้ และมอบความร่ำรวยนิรันดร์ทุกสิ่งให้กับเรา