6 ประการที่คริสเตียนจะสังเกตุดูได้ว่า คริสตจักรของตนเองนั้นเป็นคริสตจักร ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง เทียมเท็จหรือไม่

บทความข้างล่างนี้ถูกแปลจาก Six Keys to Detecting the ‘Prosperity Gospel' โดย John Piper. ©2014 Desiring God Foundation. Website: desiringGod.org

John Piper สอนในเรื่องคำสอนเทียมเท็จ ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง และ 6 ประการที่คริสเตียนจะสังเกตุดูได้ว่า คริสตจักรของตนเองนั้นเป็นคริสตจักร ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง เทียมเท็จหรือไม่

1. คริสตจักรขาดคำสอนพระคัมภีร์ในด้านการทนทุกข์ทรมานของคริสเตียน (The absence of serious doctrine of the Biblical necessity and normalcy of sufferings)

  • กจ. 14:21-22 ข่าวประเสริฐที่ประกาศนั้น ผู้เชื่อจำเป็นต้องทนความยากลำบากมากจึงจะเข้าแผ่นดินของพระเจ้าได้

  • รม. 8:23 ตั้งแต่ข้อ 18 มา ได้พูดถึงเรื่องของความทนทุกข์ลำบากแห่งสมัยปัจจุบัน และคริสเตียนที่ได้รับพระวิญญาณเป็นผลแรกนั้น ก็ต้องทนทุกข์ ต้องคร่ำครวญ เพื่อให้กายรอดตาย

  • ยน. 16:20 คริสเตียนไม่ได้ใหญ่กว่าพระเยซู ผู้ซึ่งยังต้องรับการถูกข่มเหง และเราทั้งหลายที่เป็นผู้ติดตามพระองค์ด้วย ก็ต้องผ่านการถูกข่มเหงเช่นพระองค์ด้วย

  • ฮบ. บทที่ 12 และ 2 คร. บทที่ 1 ได้สอนว่า คริสเตียนต้องได้รับการตีสอนและความทุทข์ยาก เพราะว่าการมีส่วนทนทุกข์กับพระคริสต์มากฉันใด ความชูใจของเราเนื่องจากพระคริสต์ก็มากฉันนั้น 2 คร. 1:5

เหตุผล 5 ประการที่คำสอน ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง ได้ทำร้ายทวีปแอฟริกา

เขียนโดย เจ ลี เกรดี้ (J. Lee Grady)

Photo credit: greg westfall/Flickr/Creative Commons

ผมไม่ได้เป็นคนอัฟริกัน แต่ตั้งแต่ปี 2008 เพื่อนไนจีเรียผมได้ให้ชื่อเผ่าโยรูบาผมว่า ("อะคินเวล") เพราะผมไปประเทศนั้นบ่อยมาก ผมไปหลายแห่งทั้ง ยูกันดา เคนยา มาลาวี แอฟริกาใต้ และ อียิปต์ ทำให้ผมรักแอฟริกาเป็นชีวิตจิตใจ หลานชายคนแรกของผมที่จะคลอดที่เอธิโอเปียยิ่งจะทำให้ความสัมพันธืผมกับแอฟริกาแน่นเฟ้นมากยิ่งขึ้น

ผมมักจะถูกถามว่า “พระเจ้าเคลื่อนไหวในแอฟริกาอย่างไรบ้างในปัจจุบัน” เนื่องจากผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ผมมักจะเล่าเรื่องโบสถ์ใหญ่ ๆ การนมัสการที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความหิวโหยด้านจิตวิญญาณ แต่ยังมีด้านมืดที่น่ากลัวอยู่ และผมคิดว่าเป็นเวลาที่พวกเราควรจะได้เรียนรู้ถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดในความเชื่อของทวีปแอฟริกา

ผมกำลังพูดถึง ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง แน่นอน ผมรู้จักคำสอนนี้ที่เทศน์สอนกันในประเทศสหรัฐอเมริกา - และผมก็รู้ว่าอเมริกาเป็นคนที่ทำการส่งออกคำสอนนี้ไปทั่วโลก แต่ผมยังได้เห็นถึงความเสียหายของคำสอน ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง ที่คริสเตียนอัฟริกันได้นำไปมุ่งเน้นสอนกันผิด ๆ จนเป็นอันตรายต่อพระกายอย่างสุดที่จะพรรณาได้

 

อ่านหนังสืออย่างไรให้จบภายใน 1 ชั่วโมง

เขียนโดย Kevin Eastman

การอ่านหนังสืออาจจะฆ่าคนให้ตายได้ แน่นอนว่าผมไม่ได้หมายความว่าการอ่านหนังสือฆ่าคนได้จริงๆ แต่หมายถึงมันทำให้คนรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือเท่านั้น แต่เกิดกับพวกเราทุกคนที่มีใจหิวกระหายในการอ่านและไม่หยุดที่จะเรียนรู้ด้วย

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อนของผมเดินเข้ามาหาผมในที่ทำงานด้วยหน้าตาที่เศร้าสร้อย พร้อมกับบอกผมว่า เขาอาจจะต้องลาออกจากโรงเรียนพระคริสตธรรมแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาไม่สามารถอ่านหนังสือตามที่ได้รับมอบหมายได้ทัน ผมรู้ว่าอะไรจะช่วยเขาได้ ผมจึงขอนัดทานอาหารกลางวันกับเขาในอีกสองสามวันถัดมา

หลายปีที่ผ่านมา ผมได้เห็นอย่างชัดเจนว่าผมติดอยู่กับวิธีการอ่านหนังสือแบบเดิมๆที่น่าเบื่อ พวกเราเคยเรียนวิชาการอ่านสมัยที่อยู่ชั้นประถมและมัธยมต้น แต่เมื่อเราขึ้นมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยไม่มีใครพูดถึงวิธีการอ่านหนังสืออีกต่อไป ดังนั้นถึงแม้ว่าปริมาณคำศัพท์ที่เรารู้จะเพิ่มมากขึ้น หรือเราอาจจะอ่านหนังสือได้เร็วขึ้น แต่ทว่าวิธีการอ่านของเรายังคงเป็นเหมือนเดิม

อาจารย์ Peter Christ รีดเงินจากพี่น้องคริสเตียนที่ภาคเหนือ

เมื่อเดือนกันยายน 2014 ที่ผ่านมา อาจารย์ Peter Christ (ชื่อจีน: 許榮彰: ) นักเทศน์ฟื้นฟูชาวไต้หวันได้มาสัญจรประกาศตามคริสตจักรต่าง ๆ ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเนหือ และกรุงเทพ ของไทย ท่านได้รับการเจิ่มจาก อาจารย์เบนนี ฮินน์ (Benny Hinn) เมื่ออายุ 18 ปี และเป็นผู้ประกาศพระกิตติคุณแห่งความเจริญรุ่นเรือง (Prosperity Gospel) ตามแบบของ ฮินน์

 

แนวทางการพิจารณาเรื่องการสอนผิด-เทียมเท็จในคริสตจักร

บทความข้างล่างนี้ถูกเขียนโดย คณะกรรมการศาสนศาสตร์ของกปท.

 

แนวทางในการพิจารณาว่าบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือ กลุ่มใด สอนผิดหรือมีการสอนเทียมเท็จ นั้นดูได้จากแนวทางการปฏิบัติหรือความเชื่อของบุคคลหรือกลุ่มนั้นที่แสดงออก ซึ่งเป็นที่สังเกตได้ดังนี้

1. คำสอนหรือความเชื่อเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์

  1. เขาเหล่านั้นมีความเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์เป็นแหล่งความรอดเดียวหรือไม่?
  2. การสอนเทียมเท็จจะมีการเพิ่มเติมสิ่งอื่นที่เท่าเทียมเข้ามาควบคู่กับสิทธิอำนาจของพระเยซู
  3. มีรูปแบบพิธีกรรม หรือ ลักษณะการแสดงออกในที่ประชุม ที่แตกต่างจากแนวปฏิบัติหรือการนมัสการทั่วไปของคริสตจักร และให้ความสำคัญกับพิธีกรรมเหล่านั้นเท่าเทียมกับ พระคริสต์
  4. บางครั้งอำนาจหรือความสำคัญ ที่เท่าเทียมพระคริสต์เหล่านี้ออกมาในรูปแบบของกฎ ข้อบังคับ หลักข้อเชื่อที่ตั้งขึ้น หรือมีผู้นำที่มีสิทธิอำนาจเท่าเทียมกับพระคริสต์
  5. หรืออีกนัยหนึ่งเขาจะบอกว่าเชื่อพระคริสต์ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอด แต่จะมีการเพิ่มเติมว่า ผู้เชื่อต้องการ หรือ ต้องมีสิ่งอื่นๆ อีกความรอดที่มีอยู่ถึงจะสมบูรณ์ และจะทำให้มีความมั่นใจในการไปสวรรค์
  6. คำสอนเทียมเท็จจะสอนว่าความรอดมาทางพระเยซูคริสต์ แต่จะต้องเพิ่มบางสิ่งบางอย่างที่เฉพาะเขาหรือกลุ่มของเขาเท่านั้นที่สามารถหยิบยื่นหรือจัดหาให้ได้
  7. บางกลุ่มจะไม่ให้ความสำคัญกับพระเยซูคริสต์เลย มีแต่เพียงการยกย่องผู้นำเทียมเท็จเท่านั้น ถ้ามีการกล่าวถึงพระคริสต์ก็เพียงเพื่อสนับสนุนคำสอนหรือสิทธิอำนาจของตนเอง
  8. เขายกย่องให้ผู้ฟัง หรือสาวก ติดตามพระเยซู หรือตัวของเขาหรือคณะของเขามากกว่า?

คำสอนเทียมเท็จของ “ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง” (Prosperity Gospel)

บทความข้างล่างนี้ถูกเขียนโดย คณะกรรมการศาสนศาสตร์ของกปท.

สารบัญ : คำนำ - บทความคำสอนเทียมเท็จ - แนวทางการพิจารณาเรื่องการสอนผิด-เทียมเท็จในคริสตจักร

คำนำ

คำสอนเทียมเท็จหรือคำสอนผิดมีอยู่ตั้งแต่สมัยของพระเยซูและคริสตจักรในยุคแรก

ครั้งหนึ่งพระเยซูเองได้กล่าวเตือนสาวกของพระองค์ไว้ดังนี้ว่า

 “และในเวลานั้น ถ้าผู้ใดจะบอกพวกท่านว่า ‘แน่ะ พระคริสต์อยู่ที่นี่’ หรือ ‘แน่ะ อยู่ที่โน่น’ อย่าได้เชื่อเลย  ด้วยว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จและผู้ทำนายเทียมเท็จหลายคนเกิดขึ้น ทำหมายสำคัญและการมหัศจรรย์ เพื่อล่อลวงผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรแล้วให้หลง ถ้าเป็นได้   แต่ท่านทั้งหลายจงระวังให้ดี ดูเถิด เราได้บอกท่านทั้งหลายไว้ก่อนแล้ว”  (มาระโก 13:21-23)
และอัครสาวกเปโตรได้เตือนคริสตจักรในเวลานั้นไว้เช่นกันว่า

 “แต่ว่าได้มีคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะเกิดขึ้นในชนชาตินั้น เช่นเดียวกับที่จะมีผู้สอนผิดเกิดขึ้นในพวกท่านทั้งหลาย ซึ่งจะลอบเอามิจฉาลัทธิอันจะให้ถึงความพินาศเข้ามาเสี้ยมสอน จนถึงกับปฏิเสธองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ได้ทรงไถ่เขาไว้ ซึ่งจะทำให้เขาพินาศโดยเร็วพลัน  จะมีคนหลายคนประพฤติชั่วตามอย่างเขาและเพราะคนเหล่านั้นเป็นเหตุ ทางของสัจจะจะถูกกล่าวร้าย  และด้วยใจโลภเขาจะกล่าวตลบแตลงค้ากำไรจากท่านทั้งหลาย การลงโทษคนเหล่านั้นที่ได้ถูกพิพากษานานมาแล้วจะไม่เนิ่นช้า และความวิบัติที่จะเกิดกับเขาก็หาสลายไปไม่” (2 เปโตร 2.1-3)

ดังนั้นคริสตจักรและผู้นำในปัจจุบันควรตระหนักและตื่นตัวในเรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้น  เพราะปัจจุบันมีคำสอนที่ผิดแปลกไปจากคำสอนที่คริสตจักรยุคแรกได้เชื่อและสั่งสอนสืบทอดกันมามากขึ้นเรื่อย ๆ  ปัจจุบันคำสอนที่ขัดแย้ง หรือปราศจากข้อสนับสนุนจากพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่อันตรายและทำลายพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์  คำสอนเหล่านี้บางครั้งปรากฏเพียงครั้งเดียวและไม่สามารถยืนยันจากที่อื่น ๆ ได้ หรือยิ่งไปกว่านั้นคำสอนผิดเหล่านี้ยังขัดแย้งกับคำสอนในเรื่องเดียวกัน ในตอนอื่น ๆ ของพระคริสตธรรมคัมภีร์

บทความจากคณะกรรมการศาสนศาสตร์ของกปท.ข้างล่าง  จึงเป็นการจุดประกายที่สำคัญอันเนื่องจากการที่คริสตจักรของพระเจ้าตระหนักถึงความสำคัญในการเผชิญหน้ากับคำสอนผิด และผู้ที่นำคำสอนผิดมาเผยแพร่ ทั้งนี้มุ่งให้คริสตจักรยืนหยัดในความเชื่อที่ถูกต้องตามพระวจนะของพระเจ้า อันเป็นสิทธิอำนาจที่สูงสุดของคริสตจักร                                                           

Donation Address

OMF International
10 W. Dry Creek Circle
Littleton, CO 80120

With your check, please include a note indicating support for "Karl & Sun Dahlfred"
You may also give online.